บทที่ 9 การเยี่ยมชมครอบครัวธอร์นตัน

แกเร็ธจะไปรู้ได้อย่างไร ในเมื่อไม่ว่าจะค้นหาในอินเทอร์เน็ตแค่ไหน ก็ไม่เจอข้อมูลของลูกๆ ตระกูลทิวดอร์หรือตระกูลแฮมิลตันเลย ก็แน่ล่ะ ตระกูลระดับนั้นคงไม่ยอมให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลไปง่ายๆ แบบนี้หรอก

“โล่งอกไปทีค่ะพ่อ ทีนี้หนูก็จะได้เลิกกังวลเสียที” ในที่สุดสเตลล่าก็หายใจได้ทั่วท้อง

จูเลียพูดแทรกขึ้นมา “แต่ผู้ชายคนนั้นที่บอกว่าชื่อโจนาธาน...เขาดูภูมิฐานมากเลยนะ ไม่น่าจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรอกมั้ง ใช่ไหมคะ”

เธอพูดขณะที่กำลังหั่นผลไม้ พลางนึกถึงท่าทีของโจนาธาน “แม่เดาว่าผู้ชายที่มารับอิซาเบลล่าน่าจะเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลแฮมิลตัน แค่แอบอ้างชื่อตระกูลเขาไปอย่างนั้นแหละ”

“หรืออาจจะ” จูเลียพูดต่อ “โจนาธานซึ่งเป็นคุณชายจากเอลเธรอน อาจจะมาทำธุระที่สถานีโทรทัศน์แล้วบังเอิญไปเจอกับพี่ชายของอิซาเบลล่าเข้า บางทีพวกเขาอาจจะเป็นแค่คนรู้จักกันผิวเผินก็ได้”

“แม่ว่าพวกเขาไม่น่าจะสนิทกันหรอก” จูเลียเสริมด้วยน้ำเสียงเชือดเฉือน “ดูจากท่าทีที่อิซาเบลล่าชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว พ่อแม่ที่แท้จริงของหล่อนคงไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไรนักหรอก”

“แม่คะ นี่แม่จะพูดอะไรกันแน่” สเตลล่าขมวดคิ้ว

“โอ๊ย ลูกรัก อย่าโลกสวยไปหน่อยเลย พวกคนชั้นสูงเขาก็แต่งงานกันในแวดวงของตัวเองทั้งนั้น แต่บอกแม่สิ ลูกเคยเห็นทายาทสาวจากตระกูลดีๆ ที่ไหนจะสวยโดดเด่นขนาดนั้นไหมล่ะ นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกนั้นถึงได้ชอบไปคว้านางแบบหรือดารา แล้วก็มีลูกนอกสมรสกันไงล่ะ เพื่อหวังจะได้ยีนเด่นๆ”

“เราไม่เจอข้อมูลพ่อแม่ที่แท้จริงของอิซาเบลล่าเลย แต่เชื่อแม่เถอะว่าพวกเขาไม่มีทางรวยแน่ ถ้าพวกเขารวยจริง ทำไมตั้งหลายปีมานี้ถึงไม่เคยมาตามหาลูกสาวตัวเองเลยล่ะ”

“จำเป็นต้องพูดเรื่องทั้งหมดนี่ให้ลูกฟังด้วยเหรอ” แกเร็ธขัดขึ้น น้ำเสียงเจือความรำคาญ

จูเลียรีบเปลี่ยนเรื่องพลางเหลือบมองบัตรเชิญบนโต๊ะ “ลูกรัก ถ้าลูกอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือโจนาธานตัวจริงหรือเปล่า มันง่ายนิดเดียว เราก็แค่ไปที่บ้านตระกูลแฮมิลตันด้วยตัวเองเลย

“ตามธรรมเนียมของทุกปี ผู้ชนะและรองชนะเลิศจากงานเลี้ยงสังสรรค์ของเหล่าไฮโซจะได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงฉลอง ที่ซึ่งตระกูลชั้นสูงของเอลเธรอนจะได้พบปะกับบรรดาสาวงามที่เพิ่งเข้าสังคม

“ปีนี้ตระกูลแฮมิลตันเป็นเจ้าภาพ เราก็ได้รับบัตรเชิญด้วยเหมือนกัน มาเถอะสเตลล่า เราไปเยี่ยมพวกเขาหน่อยเป็นไง”

“เยี่ยมไปเลยค่ะ! ไปกันเถอะค่ะแม่!” ดวงตาของสเตลล่าเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “เดี๋ยวก่อนนะคะ หนูต้องไปเปลี่ยนเป็นชุดที่สวยที่สุดก่อน หนูอยากให้โจนาธานตะลึงจนตกหลุมรักหนูตั้งแต่แรกเห็นเลย”

เธอหมุนตัวอย่างร่าเริงกลางห้องนั่งเล่น ก่อนจะวิ่งขึ้นชั้นบนไปด้วยใจที่พองโต

แกเร็ธมองตามลูกสาวที่หายขึ้นบันไดไป พลางจมอยู่ในภวังค์ความคิด

น่าเสียดายที่อิซาเบลล่าถูกพาตัวไปแล้ว ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้น ถ้าเพียงแต่จูเลียกับสเตลล่าไม่คิดสั้นเกินไป พวกเขาก็น่าจะเก็บอิซาเบลล่าไว้ให้นานกว่านี้ บางทีอาจจะจับเธอแต่งงานกับตระกูลขุนนางสาขาย่อยสักแห่ง ก็จะนำผลประโยชน์มหาศาลมาสู่ตระกูลธอร์นตันได้

หากมีโอกาส แกเร็ธก็ยังคิดจะหาทางสานสัมพันธ์กับอิซาเบลล่าอีกครั้ง ไม่ว่าครอบครัวของเธอจะร่ำรวยหรือไม่ก็ตาม เขารู้ดีถึงคุณค่าในตัวเธอ อย่างไรเสีย เธอก็มีความสามารถมากกว่าสเตลล่า ลูกสาวแท้ๆ ของเขาเสียอีก

คฤหาสน์ตระกูลแฮมิลตัน

เมื่อได้มายืนอยู่หน้าความโอ่อ่าตระการตาของคฤหาสน์แฮมิลตัน ดวงตาของสเตลล่าก็ทอประกายเจิดจ้า หากเธอได้แต่งงานเข้าตระกูลแฮมิลตัน ได้เป็นนายหญิงแห่งคฤหาสน์หลังนี้ในอนาคต ฐานะของเธอก็จะสูงส่งเหนือใคร เหล่าไฮโซทั่วทั้งเอลเธรอนจะต้องก้มหัวให้เธอ

สเตลล่ายืดตัวตรง ก้าวเดินอย่างมั่นใจไปยังประตูคฤหาสน์

หยุด คุณเป็นใคร” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก้าวออกมาขวางทางพวกเขาไว้

“แกกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้ ฉันคือว่าที่นายหญิงของตระกูลแฮมิลตันนะ!” สเตลล่าประกาศ เสียงของเธอเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส

“ว่าที่นายหญิงเหรอครับ” ยามเกือบจะหัวเราะออกมาแต่ก็ยังคุมท่าทีไว้ได้ “คุณผู้หญิงครับ ที่นี่คือคฤหาสน์แฮมิลตัน ไม่ใช่โรงพยาบาลบ้า คุณแน่ใจนะครับว่ามาถูกที่”

สเตลล่าโกรธจนตัวสั่นแต่ไม่ต้องการเสียหน้า เธอชูบัตรเชิญให้ดู “ฉันเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลแฮมิลตัน แกแน่ใจเหรอว่าจะหยุดฉันไว้ตรงนี้ ถ้าแกโดนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ อย่าหวังว่าฉันจะช่วยพูดให้แล้วกัน”

ยามเหลือบไปเห็นบัตรเชิญงานเลี้ยงของสังคมชั้นสูง เขาจึงวิทยุเรียกให้รถกอล์ฟมารับทั้งคู่เข้าไปข้างใน

เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องโถงรับรอง พ่อบ้านคนหนึ่งก็รีบเข้ามาหา “ต้องขออภัยด้วยครับ คุณแฮมิลตันเพิ่งจะออกไปข้างนอก”

“พอจะทราบไหมคะว่าเขาไปไหน” จูเลียเอ่ยถาม

“ท่านไปที่คฤหาสน์ของตระกูลทิวดอร์ครับ อยู่ไม่ไกล แค่ข้ามเนินเขานี้ไป”

“ตระกูลทิวดอร์ หมายถึงตระกูลที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับสองของเอลเธรอนน่ะเหรอ” จูเลียถาม ดวงตาเบิกกว้าง

พ่อบ้านพยักหน้า “ใช่ครับ คุณผู้หญิง”

“ขอบคุณ เราจะไปที่ตระกูลทิวดอร์แล้วตามหาคุณแฮมิลตันเอง” จูเลียพูดพร้อมกับจูงสเตลล่าออกไปแล้ว

“ทำไมไม่รอเขาที่นี่ล่ะคะแม่” สเตลล่าถามอย่างงุนงง

“โอ้ ลูกรัก นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้ทำความรู้จักกับตระกูลทิวดอร์ไปด้วยเลยนะ ตระกูลชั้นสูงพวกนี้รู้จักกันหมดแหละ ถ้าพวกแฮมิลตันเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง พวกทิวดอร์ก็ต้องมาแน่ การได้เจอพวกเขาก่อนมีแต่จะช่วยลูกนะ ลองคิดดูสิว่าการมีเพื่อนทรงอิทธิพลสองตระกูลอยู่ในงานมันจะดีแค่ไหน”

“แม่คะ แม่คิดรอบคอบจริงๆ เลย!” สเตลล่ายิ้มกว้าง เกาะแขนแม่ของเธออย่างออดอ้อน

พวกเธอรีบไปยังคฤหาสน์ทิวดอร์ และเมื่อเอ่ยชื่อโจนาธานที่ประตู พวกเธอก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปทันที

ในขณะเดียวกัน ที่ศาลากลางสวน อิซาเบลล่าและแบรนดอนกำลังคุยกันอย่างออกรส—ทันใดนั้นสเตลล่าก็มาถึงและเห็นพวกเขาทั้งสองพอดี แสงแดดส่องกระทบกรรไกรตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่ในมือของอิซาเบลล่า ทำให้มันดูน่ากลัว

“เห็นไหมคะแม่ หนูบอกแล้วไง ดูอิซาเบลล่านั่นสิ นางจะมีญาติรวยๆ ได้ยังไงกัน นางก็เป็นแค่น้องสาวคนสวน ที่ทำตัวเป็นพวกสังคมชั้นสูงแล้วพยายามจะตีสนิทกับตระกูลแฮมิลตัน!” เสียงแหลมปรี๊ดของสเตลล่าดังสะท้อนไปทั่วสวน ดึงดูดสายตาอยากรู้อยากเห็นจากแขกที่อยู่ใกล้ๆ

ชั่วขณะหนึ่ง สเตลล่าคิดว่าทุกคนกำลังจ้องมองเธอเพราะเธอสวยมากนั่นเอง

เธอเชิดหน้าขึ้นสูงแล้วเดินกรีดกรายเข้าไป “อิซาเบลล่า แกไม่มีมารยาทเลยรึไง ที่บ้านไม่ได้สอนให้ทักทายผู้ใหญ่เหรอ”

เมื่อเห็นสเตลล่ากับจูเลีย อิซาเบลล่าก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เธอหันหลังให้แล้วดึงแบรนดอนไปทางตัวบ้าน

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ อิซาเบลล่า!” สเตลล่าตะโกนไล่หลัง “จะหนีไปไหน รู้สึกผิดเหรอ หรือว่าเป็นเพราะเรื่องที่พี่ชายคนสวนของแกความแตกแล้ว”

อิซาเบลล่าหันกลับมา สายตาของเธอเย็นชา “รู้สึกผิดเหรอ ไม่เลยสักนิด เราแค่ไม่อยากเสียเวลาคุยกับคนขี้เหร่แบบเธอ”

“แกกล้าด่าว่าฉันขี้เหร่เหรอ” สเตลล่าฟิวส์ขาด เธอเหวี่ยงกระเป๋าใส่หน้าอิซาเบลล่า

แบรนดอนก้าวเข้ามาขวาง รับแรงเหวี่ยงนั้นไว้แล้วผลักสเตลล่ากลับไปอยู่ในอ้อมแขนของจูเลียเบาๆ

สเตลล่าเงยหน้าขึ้น ตะลึงกับความสูงและหน้าตาที่หล่อเหลาของแบรนดอน—ทั้งเสื้อสเวตเตอร์ถักที่เขาสวมใส่ ท่าทีที่สงบนิ่งและมั่นใจของเขา เข่าของเธออ่อนยวบ และหัวใจก็เริ่มเต้นรัว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป